วิธีนมาซญะนาซะฮฺ
1. การนมาซญะนาซะฮฺ วาญิบผู้นมาซจะต้องอาบน้ำนมาซ
เพราะท่านรสูลุลลอฮฺเรียกการนมาซให้แก่ผู้ตายว่า “การนมาซ” ฉะนั้นทุกๆ
การนมาซจำเป็นจะต้องมีน้ำนมาซนั่นเอง 2. เนียต (ตั้งเจตนา) ว่านมาซญะนาซะฮฺ โดยไม่อนุญาตให้กล่าวคำเนียตออกมาเป็นคำพูด
3. จากนั้นให้ยกมือทั้งสองแล้วกล่าวตักบีรฺว่า
اللهُ أَكْبَرُ
คำอ่าน “อัลลอฮุ อั๊กบัรฺ”
คำแปล “พระองค์อัลลอฮฺทรงยิ่งใหญ่”
4. จากนั้นให้อ่านสูเราะฮฺฟาติหะฮฺ
بِسْمِ اللَّهِ الرَّحْمَنِ الرَّحِيمِ (1) الْحَمْدُ لِلَّهِ رَبِّ الْعَالَمِينَ (2) الرَّحْمَنِ الرَّحِيمِ (3) مَالِكِ يَوْمِ الدِّينِ (4) إِيَّاكَ نَعْبُدُ وَإِيَّاكَ نَسْتَعِينُ (5) اهْدِنَا الصِّرَاطَ الْمُسْتَقِيمَ (6) صِرَاطَ الَّذِينَ أَنْعَمْتَ عَلَيْهِمْ غَيْرِ الْمَغْضُوبِ عَلَيْهِمْ وَلاَ الضَّالِّينَ (7)
คำอ่าน “บิสมิ้ลลาฮิรฺร่อมานิรฺร่อฮีม
อัลฮัมดุลิ้ลลาฮี้ ร็อบบิ้ลอาล่ามีน
อัรฺร่อมานิรฺร่อฮีม
มาลี่กี้เยามิดดีน
อียาก้านะอฺบุดู้ ว่าอียาก้านัซต้าอีน
อิฮฺดี้นัศศิรอฏ็อลมุซต้ากีน
ศิรอฏ็อลล่าซีน่าอันอัมต้า อ้าลัยฮิม ฆ็อยริลมัฆดูบี้อ้าลัยฮิม ว่าลัฎฎอลลีน”
คำแปล “ด้วยนามของอัลลอฮฺ ผู้ทรงกรุณาปรานี ผู้ทรงเมตตาเสมอ
การสรรเสริญทั้งหลายเป็นสิทธิแด่พระองค์อัลลอฮฺ พระผู้อภิบาลแห่งสากลโลก
ผู้ทรงกรุณาปรานี ผู้ทรงเมตตาเสมอ
ผู้ทรงสิทธิ์ขาดแห่งวันตอบแทน
เฉพาะพระองค์เท่านั้นที่เราเคารพภักดี และเฉพาะพระองค์เท่านั้นที่เราขอความช่วยเหลือ
ขอพระองค์ทรงโปรดประทานแนวทางอันเที่ยงตรงแด่พวกเราด้วยเถิด
(คือ) แนวทางของบรรดาผู้ที่พระองค์ทรงโปรดปรานแด่พวกเขา ซึ่งมิใช่แนวทางของพวกที่ถูกกริ้ว (พวกยิว) และไม่ใช่แนวทางของพวกที่หลงผิด (พวกคริสเตียน)”
5. กล่าวตักบีรฺ (ครั้งที่สอง) ว่า “อัลลอฮุอั๊กบัรฺ” โดยครั้งนี้ไม่ต้องยกมือแต่ประการใด
ท่านอบูฮุร็อยเราะฮฺเล่าว่า
أَنَّ رَسُولَ اللَّهُ صلى الله عليه وسلم كَبَّرَ عَلَى جَنَازَةٍ فَرَفَعَ يَدَيْهِ فِى أَوَّلِ تَكْبِيرَةٍ وَوَضَعَ الْيُمْنَى عَلَى الْيُسْرَى
“แท้จริงท่านรสูลุลลอฮฺตักบีรฺนมาซญะนาซะฮฺ โดยท่านรสูลยกมือทั้งสองของท่านในตักบีรฺแรก (เท่านั้น) จากนั้นก็นำมือขวาทับบนมือซ้าย”
ต่อมาให้อ่านเศาะละวาตนบีดังนี้
สำนวนการเศาะละวาตในขณะนั่งตะชะฮฺฮุด
اللَّهُمَّ صَلِّ عَلَى مُحَمَّدٍ وَ عَلَى آلِ مُحَمَّدٍ
كَمَا صَلَّيْتَ عَلَى إِبْرَاهِيْمَ وَ عَلَى آلِ إِبْرَاهِيْمَ
إِنَّكَ حَمِيْدٌ مَجِيْدٌ
اللَّهُمَّ بَارِكْ عَلَى مُحَمَّدٍ وَ عَلَى آلِ مُحَمَّدٍ
كَمَا بَارَكْتَ عَلَى إِبْرَاهِيْمَ وَ عَلَى آلِ إِبْرَاهِيْمَ
إِنَّكَ حَمِيْدٌ مَجِيْدٌ
คำ อ่าน “อัลลอฮุมม่า ศ็อลลิ อ้าลา มุฮัมหมัด ว่า อ้าลา อาลิ มุฮัมหมัด, ก้ามา ศ็อลลัยต้า อ้าลา อิบรอฮีม ว่า อ้าลา อาลิ อิบรอฮีม อินน่าก้า ฮะมีดุม ม่าญีด
อัลลอฮุมม่า บาริก อ้าลา มุฮัมหมัด ว่า อ้าลา อาลิ มุฮัมหมัด ก้ามา บาร็อกต้า อ้าลา อิบรอฮีม ว่าอะลา อาลิ อิบรอฮีม อินนะก้า ฮะมีดุม ม่าญีด”
คำแปล “โอ้อัลลอฮฺ ขอพระองค์ทรงโปรดเมตตา (สดุดี) แด่ (นบี) มุหัมมัด และวงศ์วานของท่าน (นบี) มุหัมมัด, เสมือนที่พระองค์ทรงเมตตา (สดุดี) แด่ (นบี) อิบรอฮีม และวงศ์วานของท่าน (นบี) อิบรอฮีม, แท้จริงพระองค์ทรงเป็นที่สดุดีสรรเสริญ ทรงเป็นที่สรรเสริญพระเกียรติยิ่ง
โอ้อัลลอฮฺขอพระองค์ทรงประทานความ จำเริญให้แด่ (นบี) มุหัมมัด และวงศ์วานของ (นบี) มุหัมมัด, เสมือนที่พระองค์ทรงประทานความจำเริญให้แก่ (นบี) อิบรอฮีม และวงศ์วานของ (นบี) อิบรอฮีม, แท้จริงพระองค์ทรงเป็นที่สดุดีสรรเสริญ ทรงเป็นที่สรรเสริญพระเกียรติยิ่ง”
6. กล่าวตักบีรฺ (ที่สาม) ว่า “อัลลอฮุอั๊กบัรฺ” แล้วอ่านดุอาอ์ว่า
« اللَّهُمَّ اغْفِرْ لَهُ وَارْحَمْهُ وَاعْفُ عَنْهُ وَعَافِهِ وَأَكْرِمْ نُزُلَهُ وَوَسِّعْ مُدْخَلَهُ وَاغْسِلْهُ بِالماَءِ وَالثَلْجِ وَالبَرَدِ وَنَقِّهِ مِنَ الْخَطَايَا كَمَا يُنَقَّى الثَّوْبُ الأَبْيَضُ مِنَ الدَّنَسِ وَأَبْدِلْهُ دَارًا خَيْرًا مِنْ دَارِهِ وَأَهْلاً خَيْرًا مِنْ أَهْلِهِ وَزَوْجًا خَيْرًا مِنْ زَوْجِهِ وَأَدْخِلْهُ الجَنَّةَ وَأَعِذْهُ مِنْ عَذَابِ القَبْرِ وَمِنْ عَذَابِ النَّار »
คำอ่าน “อัลลอฮุมมัฆฟิรฺ ล่าฮู วัรฺฮัมฮุ วะอฺฟุ อันฮุ ว่าอาฟี้ฮี ว่าอั๊กริม นุซุล่าฮู ว่าวัซเซี๊ยะอฺ มุดค่อล่าฮู วัฆซิลฮุ บิ้ลมาอี้ วัซซัลยี่ วัลบ้าร่อดี้ ว่านักกี้ฮี มินัลค่อฏอยาย่า ก้ามา ยุนักก็อยเซาบุลอั๊บย่าฎุ มินัดด้านัซ ว่าอั๊บดิ้ลฮุ ดาร็อนค็อยรอน มิน ดารี่ฮี ว่าอะฮฺลัน ค็อยรอน มินอะหฺลี่ฮี ว่าเซายัน ค็อยรอน มิน เซายี่ฮี ว่าอัดคิลฮุลญันน่าต้า ว่าอ้าอิซฮุ มิน อ้าซาบิ้ลก็อบรี่ ว่ามินอ้าซาบินนารฺ”
คำแปล “โอ้อัลลอฮฺขอพระองค์ทรงอภัยโทษให้แก่เขา, ทรงเมตตาต่อเขาทรงให้เขามีความปลอดภัย, ทรงอภัยโทษให้แก่เขา, ทรงทำให้ที่ลงของมีเกียรติ, ทรงทำให้ที่ข้าวของเขากว้างขวาง, ขอพระองค์ทรงโปรดชำระล้างเขาด้วยน้ำ, น้ำหิมะ, และน้ำลูกเห็บ และทรงโปรดทำให้เขาบริสุทธิ์ผุดผ่องจากความผิดต่างๆ ของเขา เสมือนกับที่พระองค์ทำให้เสื้อผ้าสีขาวบริสุทธิ์ผุดผ่องจากสิ่งสกปรก, ขอพระองค์ทรงเปลี่ยนบ้านที่ดีกว่าบ้านของเขา และครอบครัวที่ดีกว่าครอบครัวของเขา, เปลี่ยนคู่ครองที่ดีกว่าคู่ครองของเขา, พระองค์ทรงทำให้เขาเข้าสวรรค์, ขอพระองค์ทรงปกป้องเขาจากการลงโทษในหลุมฝังศพ และการจากลงโทษในไฟนรกด้วยเถิด”
7. กล่าวตักบีรฺ (ที่สี่) ว่า “อัลลอฮุอั๊กบัรฺ” (สุนนะฮฺนบีไม่ยกมือทั้งสอง)
ไม่ต้องกล่าวอะไรทั้งสิ้น
จากนั้นให้กล่าวว่า
السَّلاَمُ عَلَيْكُمْ وَرَحْمَةُ اللَّهِ
คำอ่าน “อัซซ่าลามุอ้าลัยกุม ว่าเราะหฺม่าตุ้ลลอฮฺ”
คำแปล “ขอความสันติสุข และความเมตตาจากพระองค์อัลลอฮฺจงประสบแด่พวกท่านด้วยเถิด”
พร้อมหันหน้าไปทางขวาเพียงข้างเดียวเท่านั้น
ท่านอบูฮุร็อยเราะฮฺเล่าว่า
أَنَّ رَسُولَ اللَّهِ صلى الله عليه وسلم صَلَّى عَلَى جَنَازَةٍ فَكَبَّرَ عَلَيْهَا أَرْبَعًا وَسَلَّمَ تَسْلِيمَةً وَاحِدَةً
“แท้จริงท่านรสูลุลลอฮฺนมาซญะนาซะฮฺโดยตักบีรฺสี่ครั้ง และให้สลามเพียงครั้งเดียวเท่านั้น”
8. ข้างต้นถือว่านมาซญะนาซะฮฺสมบูรณ์แล้ว จากนั้นให้แบกผู้ตาย (มัยยิต) ไปกุบูรฺทันที โดยไม่มีการอ่านดุอาอ์ หรืออ่านอัลกุรฺอานอะไรอีกแล้วหลังจากนมาซญะนาซะฮฺเสร็จสิ้นลง เพราะไม่มีแบบฉบับจากท่านนบีมุหัมมัดแต่อย่างใดทั้งสิ้น. والله أعلم
ก่อนที่คุณจะละหมาด คุณต้องมีคุณสมบัติของผู้ที่ต้องละหมาด ก่อน
1. เป็นมุสลิม
2. บรรลุศาสนภาวะ
3. มีสติสัมปชัญญะ
4. ปราศจากหัยฎฺ นิฟาส หรือ วิลาดะฮฺ
และเงื่อนไขของการละหมาด
ผู้ละหมาดยังต้องคำนึงถึงเงื่อนไขของการละหมาดอีก 8 ประการ คือ
1. ต้องปราศจากหะดัษใหญ่และหะดัษเล็ก คือ ต้องไม่มีญะนาบะฮฺ หัยฎู นิฟาส หรือ วิลาดะฮฺ และต้องมีน้ำละหมาด
2. ร่างกาย เครื่องนุ่งห่ม และสถานที่ละหมาด ต้องสะอาด
3. ต้องปกปิดเอาเราะฮฺ กล่าวคือ ผู้ชายต้องปิดตั้งแต่สะดือถึงหัวหัวเข่า ผู้หญิงจะต้องปกปิดทั่วร่างกาย ยกเว้นมือและใบหน้า
4. ต้องหันหน้าไปทางกิบละฮฺ
5. ต้องรู้ว่าได้เวลาละหมาดแล้ว
6. ต้องรับว่ามุสลิมทุกคนต้องปฏิบัติการละหมาด
7. ต้องไม่ตั้งใจเปลี่ยนการละหมาดเป็นอย่างอื่น
8. ต้องห่างไกลจากสิ่งที่ทำให้เสียละหมาด
ที่หาได้และเข้าใจที่สุดครับ
ที่มา : http://guru.google.co.th
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็นได้โดยเลือกไม่ระบุชื่อ หากต้องการระบุก็ พิมพ์ใส่ในกล่องคอมเม้นได้เลบครับ