ริดดะฮ์ หมายถึง การที่มุสลิมผู้มีสติสัมปชัญญะ และบรรลุศาสนภาวะแล้ว ไม่ว่าจะเป็นผู้ชายหรือผู้หญิง ได้ละทิ้งศาสนาอิสลามไปยึดมั่นในการปฏิเสธด้วยความเต็มใจ ผู้ที่ละทิ้งศาสนา อิสลามเรียกว่า "มุรตั๊ด"
การสิ้นสภาพจากการเป็นผู้นับถือศาสนาอิสลาม หรือที่เรียกว่า"ตกมุรตั๊ด"นี้ จะเกิดขึ้นได้ 3 ทาง คือ
1. ทางกาย คือ การแสดงออกทางปฏิบัติ เกิดได้หลายประการเช่น
- การกราบรูปปั้น ดวงดาว ดวงอาทิตย์ ฯลฯ โดยถือเป็นสิ่งเคารพสักการะ ตลอดจนการกราบมนุษย์ เช่นบิดามารดา หรือญาติผู้ใหญ่
- การกระทำอย่างเปิดเผย โดยการแสดงการเย้ยหยันต่ออัลลอฮ์ ซุบฮาน่าฮูว่าตะอาลา ต่อศาสนาอิสลาม ต่ออัลกุรอาน ต่อท่านนะบีมุฮัมมัด
- ร่วม ปฏิบัติพิธีสักการะบูชาของศาสนาอื่น เช่น เข้าร่วมพิธีทางศาสนาในงานบวชนาค ในงานศพ ฯลฯ หรือแต่งกายเป็นภิกษุสามเณร หรือเลียนแบบนักบวชในศาสนาอื่น
- ยับยั้งหรือไม่ร่วมมือในการสอนคำกล่าวปฏิญาณตนแก่ผู้ที่ประสงค์จะขอรับนับถือศาสนาอิสลาม
- การตั้งสิ่งหนึ่งสิ่งใดเป็นภาคีกับอัลลอฮ์ พระองค์ทรงตรัสว่า
6. การตั้งผู้หนึ่งผู้ใดเป็นสื่อกลางติดต่อระหว่างเขากับอัลลอฮ์ เพื่อขอไถ่โทษหรือล้างบาป ดังเช่นบางศาสนาถือว่า นักบวชเป็นตัวแทนของพระเจ้าในการรับชำระบาป
7. การเห็นดีเห็นงามกับการกระทำหรือพิธีกรรมของมุชริก(ผู้ปฏิเสธศรัทธา) ให้ความร่วมมือในการบ่อนทำลายศาสนาอิสลาม สร้างความยุ่งเหยิงปั่นป่วน กดขี่ข่มเหงมุสลิม
8. การที่มุสลิมผินหลังให้ศาสนาอิสลาม โดยไม่ทำการศึกษาและไม่ปฏิบัติตามบัญญัติของศาสนาอิสลามโดยเจตนา ฯลฯ อัลลอฮ์ทรงตรัสว่า
"และผู้ใดแสวงหาศาสนาหนึ่งอื่นจากอิสลามแล้ว ศาสนานั้นก็จะไม่ถูกรับจากเขาเป็นอันขาด"(อาละอิมรอน 85)
2. ทางวาจา เกิดได้หลายประการเช่น
- การพูดจาดูหมิ่นบทบัญญัติของศาสนา เช่นพูดว่า "ละหมาดแล้วก็ไม่เห็นรวยเลย" ฯลฯ
- กล่าวเท็จหรือบิดเบือนบทบัญญัติของศาสนา เช่นพูดว่าไม่ต้องบริจาคซะกาตก็ได้เพราะศาสนาไม่บังคับ หรือกินเหล้าไม่บาป
- กล่าวดูหมิ่นอัลลอฮ์ ซุบฮาน่าฮูว่าตะอาลา หรือเราะซูล หรือมลาอิกะฮ์ เช่นพูดว่า อัลลอฮ์ไม่มีความยุติธรรมเพราะให้ฉันลำบากทุกวัน หรือพูดจาดูหมิ่นดูแคลนเดชานุภาพของพระองค์
- ประนามมุสลิมด้วยกันว่าไม่ใช่มุสลิม
- ทำการเย้ยหยันเหยียดหยามอัลลอฮ์ ซุบฮาน่าฮูว่าตะอาลา ศาสนาอิสลาม ท่านนะบีมุฮัมมัด ไม่เชื่อการฟื้นคืนชีพในโลกหน้า การตอบแทนผู้ทำความดีและการลงโทษผู้ทำความชั่ว อัลลอฮ์ทรงตรัสว่า
6. การแสดงความสงสัย เช่น มีความสงสัยในสิ่งที่เป็นบัญญัติศาสนา การละหมาด การจ่ายซะกาต การถือศีลอด ฯลฯ
3. ทางจิตใจ เกิดได้หลายประการ
- สงสัยในคุณลักษณะของอัลลอฮ์ ซุบฮาน่าฮูว่าตะอาลา เช่นการสงสัยว่ามีองค์เดียว หรือหลายองค์ มีจริงหรือไม่
- สงสัยในคุณลักษณะกี่ยวกับตัวท่านนะบีมุฮัมมัด เช่นสงสัยว่าคำสอนของท่านเป็นเท็จหรือจริง หรือสงสัยว่าท่านเป็นศาสนฑูตหรือไม่
- สงสัยเกี่ยวกับวันกิยามะฮ์ นรก สวรรค์ ว่ามีจริงหรือไม่
- การ ไม่เชื่อว่า มุชริก(ผู้ตั้งภาคี) หรือกาฟิร(ผู้ปฏิเสธ)อยู่นอกแนวทางของอิสลาม หรือสงสัยว่าเขาเป็นผู้ปฏิเสธหรือไม่ทั้งๆที่เขาแสดงออกอย่างเปิดเผย หรือกล่าวรับรองลัทธิความเชื่อถือของมุชริกและกาฟิรว่ามีความถูกต้อง
- การ เชื่อมั่นว่าศาสนาอื่นหรือลัทธิความเชื่อถืออื่นมีความถูกต้องสมบูรณ์ และศาสนาอิสลามมีความผิดพลาดและบกพร่อง หรือยอมรับการตัดสินด้วยบทบัญญัติอื่นมีความถูกต้องมากกว่าบทบัญญัติอิสลาม
- การเกลียดชังบทบัญญัติอิสลามและซุนนะฮ์ท่านนะบีมุฮัมมัด ดังที่อัลลอฮ์ทรงตรัสว่า
7. การเชื่อว่าเป็นที่อนุญาติให้มุสลิมละทิ้งศาสนาอิสลามไปนับถือศาสนาอื่นได้
8. การแสดงออกอย่างเชื่อมั่นว่ามีพระเจ้าอื่นคู่เคียงกับอัลลอฮ์
เหตุ ที่จะทำให้สิ้นสภาพจากการเป็นมุสลิมที่กล่าวมาทั้งหมดนี้เป็นเพียงตัวอย่าง และพฤติกรรมบางอย่างอาจทำให้เราต้องหลุดพ้นจากอิสลามโดยไม่รู้ตัว ดังนั้นทุกคนจึงต้องศึกษาบทบัญญัติของศาสนาและยึดหลักการศรัทธาทั้ง ๖ ประการไว้อย่างเคร่งครัด และเมื่อรู้หรือสงสัยว่าตนเองพ้นสภาพจากการเป็นมุสลิมจะต้องกล่าวปฏิญาณตน ใหม่(ชะฮาดะฮ์)โดยทันที
การสิ้นสภาพจากการเป็นมุสลิมจะไม่เป็นผลกับบุคคลดังต่อไปนี้
- เด็กที่ยังไม่บรรลุศาสนภาวะ
- คนวิกลจริต สติฟั่นเฟือน
- คนเมาที่ไม่เจตนาเสพสิ่งมึนเมา
- ผู้ที่ถูกบังคับให้กระทำสิ่งที่ผิด แต่จิตใจยังศรัทธามั่น
ที่มา : www.islammore.com
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็นได้โดยเลือกไม่ระบุชื่อ หากต้องการระบุก็ พิมพ์ใส่ในกล่องคอมเม้นได้เลบครับ